ภาพรวม

อินดิเคเตอร์ Bollinger Bands® ถูกพัฒนาโดย John Bollinger เป็นแถบที่ใช้วัดความผันผวน (Volatility Bands) ซึ่งวางไว้เหนือและใต้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) ความผันผวนถูกคำนวณจาก ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปตามระดับความผันผวนของตลาด

เมื่อความผันผวนเพิ่มขึ้น แถบจะกว้างขึ้นโดยอัตโนมัติ และเมื่อความผันผวนลดลง แถบจะหดแคบลง ลักษณะการเปลี่ยนแปลงแบบไดนามิกนี้ทำให้ Bollinger Bands สามารถใช้กับสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องปรับค่าพารามิเตอร์หลัก

สำหรับการใช้งานด้านสัญญาณการเทรด Bollinger Bands สามารถใช้เพื่อระบุรูปแบบ M-Tops และ W-Bottoms หรือใช้ประเมินความแข็งแกร่งของแนวโน้ม (Trend Strength) ได้ นอกจากนี้ สัญญาณที่เกิดจากการแคบลงของแถบ (BandWidth) ยังมีการอธิบายเพิ่มเติมไว้ในบทความของ ChartSchool เกี่ยวกับ BandWidth

คำอธิบาย

Bollinger Bands ประกอบด้วยแถบตรงกลางและแถบด้านนอกสองเส้น

• แถบตรงกลางคือ ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย (Simple Moving Average – SMA) ซึ่งโดยทั่วไปตั้งไว้ที่ 20 ช่วงเวลา (Periods)

• การใช้ SMA มีเหตุผลเพราะสูตรคำนวณส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานก็อ้างอิงจากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่ายเช่นกัน

• ช่วงเวลาที่ใช้คำนวณส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานจะเท่ากับช่วงเวลาของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่

• แถบด้านนอกมักถูกตั้งไว้ที่ ±2 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เหนือและใต้แถบกลาง

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับอินดิเคเตอร์นี้และสัญญาณการเทรดของมัน สามารถคลิกที่นี่

การตั้งค่าในกราฟ

การตั้งค่าในกลยุทธ์

เนื่องจากอินดิเคเตอร์ Bollinger Bands ประกอบด้วยสององค์ประกอบแยกกัน ได้แก่ Bollinger Bands High และ Bollinger Bands Low ซึ่งแต่ละส่วนมีพารามิเตอร์และค่าของตนเอง ดังนั้นใน RoboBuilder อินดิเคเตอร์นี้จึงถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนดังนี้:

• Bollinger Bands High

• Bollinger Bands Low

ผู้ใช้สามารถใช้อินดิเคเตอร์ทั้งสองนี้ร่วมกัน หรือใช้แยกจากกันพร้อมกับอินดิเคเตอร์อื่น ๆ ได้ตามต้องการ