ภาพรวม
Money Flow Index (MFI) คือออสซิลเลเตอร์ที่ใช้ทั้งราคาและปริมาณการซื้อขายในการวัดแรงซื้อและแรงขาย พัฒนาโดย Gene Quong และ Avrum Soudack และมักถูกเรียกว่า “RSI ที่ถ่วงน้ำหนักด้วยปริมาณ” (volume-weighted RSI)
MFI เริ่มจากการคำนวณราคาเฉลี่ยของแต่ละช่วงเวลา หากราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจะถือเป็นกระแสเงินไหลเข้า (แรงซื้อ) แต่หากราคาเฉลี่ยลดลงจะถือเป็นกระแสเงินไหลออก (แรงขาย) จากนั้นจะนำอัตราส่วนของกระแสเงินไหลเข้าและไหลออกไปใช้ในสูตร RSI เพื่อสร้างออสซิลเลเตอร์ที่เคลื่อนไหวระหว่างศูนย์ถึงหนึ่งร้อย
ในฐานะที่เป็นออสซิลเลเตอร์ประเภทโมเมนตัมที่ผูกกับปริมาณการซื้อขาย Money Flow Index (MFI) เหมาะสำหรับการระบุสัญญาณกลับตัวและภาวะราคาสูงเกินไป/ต่ำเกินไป (price extremes)

รายละเอียด
ในฐานะที่เป็น RSI แบบถ่วงน้ำหนักด้วยปริมาณ MFI จึงสามารถตีความได้คล้ายกับ RSI โดยความแตกต่างสำคัญคือ “ปริมาณการซื้อขาย”
เมื่อเพิ่มปริมาณเข้ามา MFI จึงมีพฤติกรรมที่แตกต่างจาก RSI เล็กน้อย ทฤษฎีชี้ว่าปริมาณมักจะเป็นตัวนำราคาก่อน ขณะที่ RSI ก็เป็นออสซิลเลเตอร์แบบโมเมนตัมที่มีลักษณะนำราคาอยู่แล้ว การรวมปริมาณเข้ามาอาจเพิ่มความเร็วของสัญญาณนำได้
Quong และ Soudack ระบุสัญญาณหลัก 3 ประเภทจาก MFI ได้แก่:
1. ระดับซื้อมากเกินไป (overbought) และขายมากเกินไป (oversold) – เพื่อเตือนภาวะราคาที่สูงหรือต่ำเกินจริง
2. ไดเวอร์เจนซ์แบบขาขึ้นและขาลง – ใช้คาดการณ์การกลับตัวของแนวโน้ม
3. Failure swings ที่ระดับ 80 หรือ 20 – ช่วยระบุโอกาสการกลับตัวของราคา
ในบทความนี้ ไดเวอร์เจนซ์และ failure swings ถูกจัดเป็นกลุ่มสัญญาณเดียวเพื่อเพิ่มความแม่นยำของการตีความ
คลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับอินดิเคเตอร์นี้และสัญญาณการเทรด
การตั้งค่าในกราฟ


การตั้งค่าในกลยุทธ์

Money Flow Index (MFI) สามารถใช้งานได้ทั้งแบบเดี่ยว หรือร่วมกับอินดิเคเตอร์อื่น ๆ ใน RoboBuilder