ภาพรวม

ในบทความ Volume Oscillator Confirms Price Movement เราได้ศึกษาการวัดปริมาณการซื้อขายผ่านมอสดิฟายด์ออสซิลเลเตอร์ (Oscillator) ที่ใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สองค่า ในบทความนี้เราจะมาดู Volume Rate of Change (V-ROC) โดยเน้นความสำคัญของการเคลื่อนไหวของราคาและปริมาณการซื้อขายในการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด

ในทศวรรษที่ผ่านมา เราได้เห็นการแกว่งตัวแบบสามหลักของดัชนี Dow Jones ทั้งขึ้นและลง สำหรับผู้เริ่มต้นศึกษาเทคนิคการวิเคราะห์ อาจไม่ทันสังเกตว่าบางการเคลื่อนไหวเหล่านี้ขาดความมั่นใจ เพราะปริมาณการซื้อขายไม่ได้สนับสนุนการเคลื่อนไหวของราคา นักวิเคราะห์กราฟไม่สนใจการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นเพียง 5–10% หากปริมาณที่ผลักดันราคานั้นเป็นเพียงเศษเสี้ยวของปริมาณรายวันที่ปกติสำหรับหุ้นนั้น ๆ ในทางกลับกัน เนื่องจากปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq สูงถึงหรือเกินสองพันล้านหุ้นต่อวัน การเคลื่อนไหวของราคาที่มีนัยสำคัญจะดึงดูดความสนใจของนักวิเคราะห์ หากการเคลื่อนไหวของราคาน้อยกว่า 5–10% อย่างมีนัยสำคัญ คุณอาจไปตีกอล์ฟแทน

รายละเอียด

Volume Rate of Change (V-ROC) เป็นตัวชี้วัดที่แสดงว่าแนวโน้มปริมาณการซื้อขายกำลังพัฒนาไปในทิศทางขาขึ้นหรือขาลงหรือไม่ คุณอาจคุ้นเคยกับ Price Rate of Change (ซึ่งได้อธิบายไว้ที่นี่) ซึ่งแสดงให้นักลงทุนเห็นอัตราการเปลี่ยนแปลงโดยวัดจากราคาปิดของหุ้น ในการคำนวณ V-ROC คุณต้องนำการเปลี่ยนแปลงของปริมาณในช่วง n วัน (สัปดาห์ หรือเดือน) หารด้วยปริมาณของ n วันก่อนหน้านั้น ผลลัพธ์คือเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของปริมาณในช่วง n วัน

ความหมายคือ หากปริมาณในวันนี้สูงกว่าปริมาณเมื่อ n วันก่อน อัตราการเปลี่ยนแปลงจะเป็นค่าบวก หากปริมาณต่ำกว่า V-ROC จะเป็นค่าลบ ทำให้เราสามารถมองเห็นความเร็วที่ปริมาณเปลี่ยนแปลง

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวชี้วัดนี้และสัญญาณการซื้อขาย คลิกที่นี่

การตั้งค่าในกราฟ

การตั้งค่าในกลยุทธ์

Volume Rate Of Change สามารถใช้งานได้ทั้งแบบแยกเดี่ยวหรือร่วมกับตัวชี้วัดอื่น ๆ ใน RoboBuilder